แต่งเป็นร่ายยาว มีพระคาถาภาษาบาลีนำ และพรรณนาเนื้อความโดยมีพระคาถาสลับเป็นตอน ๆ ไปจนจบกัณฑ์ คำประพันธ์ประเภทร่ายยาว หนึ่งบทจะมีกี่วรรคก็ได้ แต่ส่วนมากมี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคหนึ่ง ๆ มีตั้งแต่ ๖ คำขึ้นไป ถึง ๑๐ คำหรือมากกว่า มีบังคับเฉพาะระหว่างวรรค คือ คำสุดท้ายของวรรคจะส่งสัมผัสไปที่คำที่ ๑ ถึง ๕ ของวรรคต่อไป เมื่อจบตอนมักมีคำสร้อย เช่น “นั้นแล” “นี้แล” ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เป็นร่ายยาวสำหรับเทศน์ จะมีคำศัพท์บาลีขึ้นก่อน แล้วแปลเป็นภาษาไทย แล้วจึงมีร่ายตาม ในระหว่างการดำเนินเรื่องจะมีคำบาลีคั่นเป็นระยะ ๆ คำบาลีนั้นมีความหมายเกี่ยวเนื่องกับข้อความที่ตามมา
แผนผังร่ายยาว
ตัวอย่าง
แต่งเป็นร่ายยาว มีพระคาถาภาษาบาลีนำ และพรรณนาเนื้อความโดยมีพระคาถาสลับเป็นตอน ๆ ไปจนจบกัณฑ์ คำประพันธ์ประเภทร่ายยาว หนึ่งบทจะมีกี่วรรคก็ได้ แต่ส่วนมากมี ๕ วรรคขึ้นไป วรรคหนึ่ง ๆ มีตั้งแต่ ๖ คำขึ้นไป ถึง ๑๐ คำหรือมากกว่า มีบังคับเฉพาะระหว่างวรรค คือ คำสุดท้ายของวรรคจะส่งสัมผัสไปที่คำที่ ๑ ถึง ๕ ของวรรคต่อไป เมื่อจบตอนมักมีคำสร้อย เช่น “นั้นแล” “นี้แล” ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เป็นร่ายยาวสำหรับเทศน์ จะมีคำศัพท์บาลีขึ้นก่อน แล้วแปลเป็นภาษาไทย แล้วจึงมีร่ายตาม ในระหว่างการดำเนินเรื่องจะมีคำบาลีคั่นเป็นระยะ ๆ คำบาลีนั้นมีความหมายเกี่ยวเนื่องกับข้อความที่ตามมา
แผนผังร่ายยาว
ตัวอย่าง
ประวัติผู้แต่ง
เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นกวีเอกคนหนึ่งในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีนามเดิมว่า หน เกิดเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด น่าจะอยู่ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา และถึงแก่อสัญกรรม ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พ.ศ. ๒๓๔๘ ผลงานด้านวรรณคดีที่ท่านได้แต่งไว้หลายเรื่องด้วยกัน
เจ้าพระยาพระคลัง เป็นบุตรเจ้าพระยาบดินทร์สุรินทร์ฦๅชัย (บุญมี) กับท่านผู้หญิงเจริญ มีบุตรธิดาหลายคน ที่มีชื่อเสียงคือ เจ้าจอมพุ่ม ในรัชกาลที่ ๒ เจ้าจอมมารดานิ่ม พระมารดาสมเด็จฯ กรมพระยาเดชาดิศร (มั่ง) ในรัชกาลที่ ๒ นายเกต และนายพัด ซึ่งเป็นกวีและครูพิณพาทย์ เป็นต้นสกุล บุญ-หลง
อานิสงส์
ผู้ใดบูชากัณฑ์มัทรี จะได้อานิสงส์ดังนี้ เกิดในโลกหน้าจะเป็นผู้มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้มีอายุยืนยาว ทั้งประกอบด้วยรูปโฉมงดงามกว่าคนทั้งหลาย จะไปในที่ใด ๆ ก็จะมีแต่ความสุขทุกแห่งหน
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เป็นกวีเอกคนหนึ่งในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ มีนามเดิมว่า หน เกิดเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด น่าจะอยู่ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา และถึงแก่อสัญกรรม ในสมัยรัชกาลที่ ๑ พ.ศ. ๒๓๔๘ ผลงานด้านวรรณคดีที่ท่านได้แต่งไว้หลายเรื่องด้วยกัน
เจ้าพระยาพระคลัง เป็นบุตรเจ้าพระยาบดินทร์สุรินทร์ฦๅชัย (บุญมี) กับท่านผู้หญิงเจริญ มีบุตรธิดาหลายคน ที่มีชื่อเสียงคือ เจ้าจอมพุ่ม ในรัชกาลที่ ๒ เจ้าจอมมารดานิ่ม พระมารดาสมเด็จฯ กรมพระยาเดชาดิศร (มั่ง) ในรัชกาลที่ ๒ นายเกต และนายพัด ซึ่งเป็นกวีและครูพิณพาทย์ เป็นต้นสกุล บุญ-หลง
อานิสงส์
ผู้ใดบูชากัณฑ์มัทรี จะได้อานิสงส์ดังนี้ เกิดในโลกหน้าจะเป็นผู้มั่งคั่ง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สมบัติ เป็นผู้มีอายุยืนยาว ทั้งประกอบด้วยรูปโฉมงดงามกว่าคนทั้งหลาย จะไปในที่ใด ๆ ก็จะมีแต่ความสุขทุกแห่งหน
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
ร่ายยาวมหาเสสันดรชาดก แต่งขึ้นเพื่อใช้เทศน์มหาชาติ เนื่องจากร่ายยาวหมาเสสันดรชาดกเป็นชาดกเรื่องใหญ่ที่สุด เป็นชาติที่พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระเสสันดรซึ่งเป็นพระชาติสุดท้ายก่อนจะประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ แล้วเสด็จออกผนวชกระทั่งได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องราวในพระชาติที่เป็นพระเวสสันดรได้ทรงบำเพ็ญทศบารมี ครบทั้ง ๑๐ ประการ โดนเฉพาะอย่างยิ่ง ทานบารมี ซึ่งทรงบริจาคบุตรทารทาน คือ บริจาคพระชาลี พระกัณหา และพระนางมัทรี จึงเป็นชาติที่สำคัญและยิ่งใหญ่ เรียกว่า “มหาชาติ” หรือ “มหาเสสันดรชาดก”
เรื่องย่อ
พระนางมัทรีฝันร้ายว่ามีบุรุษมาทำร้าย จึงขอให้พระเวสสันดรทำนายฝันให้ แต่พระนางก็ยังไม่สบายพระทัย ก่อนเข้าป่า พระนางฝากพระโอรสกับพระธิดากับพระเวสสันดรให้ช่วยดูแล หลังจากนั้นพระนางมัทรีก็เสด็จเข้าป่าเพื่อหาผลไม้มาปรนนิบัติพระเวสสันดรและสองกุมาร ขณะที่อยู่ในป่า พระนางพบว่าธรรมชาติผิดปกติไปจากที่เคยพบเห็น เช่นต้นไม้ที่เคยมีผลก็กลายเป็นต้นที่มีแต่ดอก ต้นที่เคยมีกิ่งโน้มลงมาให้พอเก็บผลได้ง่าย ก็กลับกลายเป็นต้นตรงสูงเก็บผลไม่ถึง ทั้งท้องฟ้าก็มืดมิด ขอบฟ้าเป็นสีเหลืองให้รู้สึกหวั่นหวาดเป็นอย่างยิ่ง ไม้คานที่เคยหาบแสรกผลไม้ก็พลัดตกจากบ่า ไม้ตะขอที่ใช้เกี่ยวผลไม้พลัดหลุดจากมือ ยิ่งพาให้กังวลใจยิ่งขึ้นบรรดาเทพยดาทั้งหลายต่างพากันกังวลว่า หากนางมัทรีกลับออกจากป่าเร็วและทราบเรื่องที่พระเวสสันดร ทรงบริจาคพระโอรสธิดาเป็นทาน ก็จะต้องออกติดตามพระกุมารทั้งสองคืนจากชูชก พระอินทร์จึงส่งเทพบริวาร 3 องค์ให้แปลงกายเป็นสัตว์ร้าย 3 ตัว คือราชสีห์ เสือโคร่ง และเสือเหลือง ขวางทางไม่ให้เสด็จกลับอาศรมได้ตามเวลาปกติ เมื่อล่วงเวลาดึกแล้วจึงหลีกทางให้พระนางเสด็จกลับอาศรม เมื่อพระนางเสด็จกลับถึงอาศรมไม่พบสองกุมารก็โศกเศร้าเสียพระทัย เที่ยวตามหาและร้องไห้คร่ำครวญ พระเวสสันดรทรงเห็นพระนางเศร้าโศก จึงหาวิธีตัดความทุกข์โศกด้วยการแกล้งกล่าวหานางว่าคิดนอกใจคบหากับชายอื่น จึงกลับมาถึงอาศรมในเวลาดึก เพราะทรงเกรงว่าถ้าบอกความจริงในขณะที่พระนางกำลังโศกเศร้าหนักและกำลังอ่อนล้า พระนางจะเป็นอันตรายได้ ในที่สุดพระนางมัทรีทรงคร่ำครวญหาลูกจนสิ้นสติไป ครั้นเมื่อฟื้นขึ้น พระเวสสันดรทรงเล่าความจริงว่า พระองค์ได้ประทานกุมารทั้งสองแก่ชูชกไปแล้วด้วยเหตุผลที่จะทรงบำเพ็ญทานบารมี พระนางมัทรีจึงทรงค่อยหายโศกเศร้าและทรงอนุโมทนาในการบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดรด้วย
เรื่องย่อ
คุณค่าที่ได้จากเรื่อง
๑.คุณค่าด้านวรรณศิลป์
๑.๑ ใช้ถ้อยคาไพเราะ มีการเล่นคา เล่นสัมผัสอักษร มีการใช้โวหารภาพพจน์ และการพรรณนาให้เกิดความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน รวมทั้งเกิดจินตภาพชัดเจน
๑.๒ เนื้อหาของกัณฑ์มัทรีแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจน จะเห็นได้จากตอนที่เกิดเรื่องร้ายแก่พระนางมัทรีขณะที่หาผลาหารอยู่ในป่า
๒. คุณค่าด้านสังคม
๒.๑ สะท้อนให้เห็นค่านิยมแนวโลกุตตรธรรมของประชาชนว่า มีความปรารถนาจะบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ
๒.๒ เรื่องพระมหาเวสสันดรชาดก เป็นวรรณกรรมที่เกิดขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น จึงเป็นภาพสะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม และค่านิยมของคนในยุคนั้น ๆได้ดีว่า มีการซื้อขายบุคคลเป็นทาส นิยมการบริจาคทานเพื่อหวังบรรลุนิพพาน มีความเชื่อเรื่องลางบอกเหตุ เชื่อเรื่องอำนาจของเทพยดาฟ้าดินต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังแสดงภาพชีวิตในชนบทเกี่ยวกับการละเล่นและการเล่นซ่อนหาของเด็ก ๆ
๒.๓ ให้แง่คิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของผู้หญิงในฐานะที่เป็นแม่และเป็นภรรยาที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
๒.๔ มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี สะท้อนแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับความรักของแม่ที่มีต่อลูกอย่างสุดชีวิต
๒.๕ ข้อคิด คติธรรม ที่สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันของทุกคนได้ เกี่ยวกับการเป็นคู่สามีภรรยาที่ดี การเสียสละ เป็นคุณธรรมที่น่ายกย่อง และการบริจาคทาน เป็นการกระทาที่สมควรได้รับการอนุโมทนา
จิรวรรณ อนุชาติ และคณะ. มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี. (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://jirawanjane.wordpress.comom/
อ้างอิง
จิรวรรณ อนุชาติ และคณะ. มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี. (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://jirawanjane.wordpress.comom/
(สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557)
มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี. (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.thaigoodview.com/node/87522 (สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557)
ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก ตอนกัณฑ์มัทรี. (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.trueplookpanya.com/true/blog_diary_detail.php?diary_id=1574
(สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557)
วิกีพีเดีย สารานุกรมเสรี. มหาเวสสันดรชาดก (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://th.wikipedia.org.html (สืบค้นวันที่ 20 กุมพาภัณฑ์ 2557)
เวสสันดรชาดก. (ออนไลน์). สืบค้นจาก : http://www.dhammathai.org/chadok/legend10.php (สืบค้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557)
คณะผู้จัดทำ
นายศุภสิน คงจรรักษ เลขที่ 1 ชั้น ม.4/7
นายเสริมศักดิ์ ทองวิจิตร เลขที่ 11 ชั้น ม.4/7
นายชนวีร์ เพชรประภัสสร เลขที่ 12 ชั้น ม.4/7
โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
เสนอ
คุณครู มนพร เหมานนท์